หนูแฮมสเตอร์ มารู้จักที่มาที่ไป ของเจ้าหนูตัวจิ๋วชนิดนี้กันดีกว่า ว่าจะมีความเป็นมา คล้ายคลึงกับ ชูก้าไรเดอร์ หรือไม่?
หนูแฮมสเตอร์ หลายท่านคงสงสัย ว่าทำไมถึงต้องเรียก เจ้าหนูสายพันธุ์นี้ ว่าหนูแฮมสเตอร์ จริงๆแล้วนั้น คำว่า “แฮมสเตอร์” คือคำที่มาจากภาษาเยอรมัน คำๆนี้แปลว่า กระพุ้งแก้ม อ้างอิงมาจากเว็บไซต์ชื่อดัง สังเกตุดูได้ว่า เวลาที่เจ้าแฮมสเตอร์ กินอาหารนั้น พวกมันจะเอาอาหาร ยัดไว้ที่แก้มก่อน จะยังไม่กิน แล้วกลืนอาหารลงไปทั้งหมด นั่นเป็นเพราะ พวกมันต้องการจะเก็บอาหารไว้ในแก้ม
ให้มากที่สุด ก็อาจจะเผื่อในยามฉุกเฉิน เวลาที่ไม่มีอาหารกิน พฤติกรรมเช่นนี้ จะว่าไป ก็คล้ายคลึงกับพวกชูก้าไรเดอร์ และลิงอยู่เหมือนกัน แต่ถึงกระนั้น ความแตกต่างของแฮมสเตอร์ โดยทั่วไป ที่เราสามารมองเห็นได้ชัด เลยก็คือ
ขนาดของลำตัว และสีของขน ที่แต่ละสายพันธุ์นั้น มีแยกย่อยออกไปอีก รวมไปถึงนิสัยใจคอ ของแต่ละสายพันธุ์ ก็ต่างกันอีกด้วย ไม่ใช่แฮมสเตอร์ทุกชนิด จะเหมาสม ที่จะนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงนะทุกคน เพราะแต่ละชนิด ก็มีความน่ารัก
ที่ต่างกันออกไป สิ่งที่เจ้าจิ๋วตัวนี้ โปรดปรานมากที่สุด เหห็นจะเป็น เมล็ดพืชต่างๆ จำได้ไหม เพลงที่ร้องในการ์ตูนแฮมทาโร่ มีท่อนหนึ่งที่น้องว่า “ของอร่อยที่สุดก็คือ.. เมล็ดทานตะวัน” แรกเริ่มเดิมที ประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นชาติแรกๆเลยก็ว่าได้ ที่นิยมเลี้ยงเจ้าหนูแฮมสเตอร์ ตั้งแต่ในช่วงปี ค.ศ.1930 หรือ 90 ปีมาแล้วเชียวนะ
หนูแฮมสเตอร์ เป็นสัตว์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในช่วงที่มีการฉายการ์ตูนเรื่องแฮมทาโร่ เจ้าหนูตัวนี้จะน่าเลี้ยงกว่า เต่าญี่ปุ่น อย่างไร?
ปัจจุบันนี้ เชื่อว่าแฮมสเตอร์ คงเป็นสัตว์เลี้ยงสุดฮิต สำหรับมือใหม่ ที่อยากจะเลี้ยงสีตว์สักตัว ไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา แฮมสเตอร์นี่แหล่ะ ที่ตอบโจทย์ ทั้งด้านของ การประหยัดพื้นที่ เพราะบางคน อยู่คอนโด อยู่หอพัก แฮมสเตอร์ตัวเล็กๆ
ที่เลี้ยงในกรงได้ ก็ตอบโจทย์ค่อนข้างดี แถมยังเล่นกับเราได้อีกด้วย แต่ขอให้ระวังให้ดี เพราะแฮมสเตอร์บางชนิด จะชอบตื่นมากลางดึก แล้ววิ่งๆๆ อยู่ในกรง จนอาจจะทำให้คุณ ไม่ได้หลับไม่ได้นอนก็ได้ เพราะเจ้าแฮมสเตอร์นี้
ชื่นชอบในการวิ่ง เป็นอย่างมาก และเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง ที่วิ่งเร็วไม่เบาเลยทีเดียว อย่างเจ้าหนูแฮมสเตอร์ ในการ์ตูนเรื่องแฮมทาโร่นั้น แฮมสเตอร์ตัวละครหลัก ว่ากันว่า เป็นสา่ยพันธุ์ แฮมสเตอร์ซีเรียสีทอง เอาจริงๆแล้ว สายพันธุ์นี้
ถูกพบในประเทศซีเรีย เจ้าแฮมสเตอร์สายพันธุ์นี้ จะมีขนาดเพียง 15 เซนติเมตรเท่านั้น เมื่อเจริญวัยสูงสุด ไม่ใหญ่เกินนี้ มีทั้งแบบขนสั้นและขนยาว หลากหลายสีสัน แต่สีที่ได้รัยความนิยม ก็คงจะเป็นสีน้ำตาลทอง แฮมสเตอร์พันธุ์นี้ สามารถที่จะฝึกให้เชื่องได้
หนูแฮมสเตอร์ มีกี่สายพันธุ์ และสายพันธุ์ไหน ได้รับความนิยมในการเลี้ยงมากที่สุด การเลี้ยงหนูจะสนุกกว่าเลี้ยง สุนัขพันธุ์เล็ก แค่ไหน?
มาดูกันดีกว่า ว่าแฮมสเตอร์สายพันธุ์ไหน ที่ได้รับความนิยม ในการเลี้ยงบ้าง สำหรับใครที่กำลังศึกษา ในเรื่อง สายพันธุ์ของแฮมสเตอร์ ก็ลองอ่านดูก่อนนะ อย่าพึ่งด่วนซื้อ ให้นำข้อมูลส่วนนี้ ไว้ใช้ในการตัดสินใจ ก่อนที่จะเลือกซื้อเจ้าเพื่อนซี้ตัวจิ๋ว มาครอบครอง
- ซีเรียนแฮมสเตอร์ หรือหนูไจแอนท์
แฮมสเตอร์สายพันธุ์นี้ ได้รับความนิยมในการเลี้ยงสูงสุด ด้วยนิสัยที่ร่าเริง และชอบตื่นมาช่วงกลางคืน เพื่อวิ่งเล่น แต่นิสัยส่วนตัว ของเจ้าหนูพันธุ์นี้ ก็คือ นักในความPrivate อยู่ตัวเดียวในกรงก็ได้ และชอบเสียด้วยซ้ำ เพราะถ้าเลี้ยงหลายตัวไว้ในกรงเดียวกัน ก็อาจจะกัดกัน จนบาดเจ็บนั่นเอง
- วินเทอร์ ไวท์ รัสเชียน แฮมสเตอร์
มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่ง ที่คนรู้จักกัน ก็คือ ไซบีเรียน แฮมสเตอร์ พันธุ๋นี้สามารถที่จะเลี้ยงรวมกันในกรง แบบหลายๆตัวได้ อายุโดยเฉลี่ยแล้ว อยู่ที่ 1ปี ถึง 2 ปีด้วยกัน สีที่ได้รัยความนิยม และเแ็นเอกลักษณ์คือ สีน้ำตาลเทานั่นเอง
- โรโบรอฟสกี้ แฮมสเตอร์
สายพันธุ์นี้คือสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สุด ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว เพราะมีขนาดเพียงแค่ 4-5 เซนติเมตรเท่านั้น ถือว่าจิ๋วมาก แต่โดยเฉลี่ยแล้ว สายพันธุ์นี้ มีอายุขัยประมาณ 3 ปีขึ้นไป สีที่นิยมเลี้ยงก็คงจะเป็น สีน้ำตาลทองนั่นเอง
ใครที่อยากจะเลี้ยงเจ้าหนูแฮมสเตอร์ฟังทางนี้ นี่คือพฤติกรรมที่คุณต้องรู้ก่อนเลี้ยง
หนูแฮมสเตอร์แต่ละชนิด มีนิสัยใจคอ ที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ดังนั้นแล้ว สำหรับใครที่อยากจะเลี้ยง จึงต้อง จึงต้องศึกษานิสัยใจคอ ของเจ้าหนูตัวน้อยนี้ให้ดี ลักษณะการเป็นอยู่ของเจ้าแฮมสเตอรฺนี้ ข้อแรกที่ต้องรู้เลยก็คือ
- การกิน ด้วยความที่ตัวเล็ก เจ้าสัตว์ชนิดนี้จึงไม้กินจุ อาหาร 1 กิโลกรัม สามารถอยู่ได้เกือบทั้งเดือนเลยทีเดียว อย่างที่บอกไปข้างต้น ว่าที่มาของชื่อแฮมสเตอร์ แปลว่าแก้ม และนิสัยของเข้าหนูพวกนี้ ก็มักจะเก็บอาหารไว้ที่กระพุ้งแก้ม ที่เห็นว่าแก้มตุ่ยๆ ก็เป็นเพราะพวกมันกำลังอมอาหารอยู่นั่นเอง
- การวิ่ง แต่เดิมนั้น หนูสายพันธุ์นี้ มาจากแถบทะเลทราย ดังนั้นแล้ว จึงคุ้นชินกับการวิ่งในระยะไกล และรู้ไหม ว่าถ้าเจ้าหนูพวกนี้ไม่ได้วิ่ง อาจจะทำให้พวกมันตายได้เลยนะ ดังนั้นแล้ว จะให้น้องอยู่แต่ในกรง ไม่ได้วิ่งเลย น้องอาจจะเครียดได้ ถ้าจะให้ดี ก็อาจจะให้น้องอยู่ในกรงที่มีขนาดใหญ่ มีพื้นที่พอที่จะให้วิ่งเลย อันนี้ดีเลยล่ะ
- การนอน น้องค่อนข้างจะหลับได้ทุกที่ บางทีก็หลับคาวงล้อที่วิ่ง บางทีนอนหงาย บางทีหัวทิ่ม คือท่านอนค่อนข้างพิศดารมาก
- การทำความสะอาด ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ถือได้ว่า เป็นหัวในหลัก ของการเลี้ยงเจ้าหนูแฮมสเตอร์เลยก็ว่าได้ น้องอาจจะมีกลิ่นเฉพาะตัว คนที่เบี้ยงแฮมสเตอร์ จะรู้กันดี ว่าน้องมักจะนอนทัยฉี่ตัวเอง อาจจะไม่ตั้งใจในบางครั้ง การทำความสะอาดที่ดีที่สุด ไม่ใช่การพาน้องไปแช่น้ำ เพราะอาจจะทำให้ตายได้ ทางที่ดี ควรใช้ผ้าชุบน้ำ เช็ดบริเวณที่ตัว จะดีและปลอดภัยกว่า และสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด สัตว์เลี้ยงทุกชนิด ต้องการความรักจากเจ้าของ ควรที่พาน้องออกมานอกกรง และเล่นกับเขาบ่อยๆ จะทำให้เขามีความคุ้นชินกับเรา และพฤติกรรมก้าวร้าวของสัวต์ลดลง
วิธีการดูแลและเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์ จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากหรือไม่ ไปติดตามพร้อมกัน
เริ่มต้นตั้งแต่ การเลือกซื้อ หากคุณได้อ่านในข้างต้น หรือศึกษา เรื่องราวของแฮมส์เตอร์ มาพอสมควร และได้เลือกสายพันธุ์ที่ชื่นชอบไว้แล้ว สิ่งต่อไปก็คือ หาร้านสัตว์เลี้ยงที่มีความน่าเชื่อถือ และทำการซื้อ ขอแอบกระซิบว่า หากใครที่อยากจะเลี้ยงแล้วน้องเชื่อง ให้ซื้อสายพันธุ์ ซีเรียน แฮมสเตอร์ มาเลี้ยง เพราะน้องมีขนาดตัวที่ใหญ่ (ประมาณ12-17ซ.ม) สิ่งที่คุณต้องเตรียมก็คือ
- กรง และที่รองกรง
- ลู่วิ่งเพื่อให้แฮมสเตอร์ออกกำลังกาย
- ถ้วยอาหารและน้ำ
- กระบะทรายเพื่ออึหรือฉี่
- บ้าน ซึ่งเป็นบ้าน ที่อยู่ในกรงอีกที เพื่อให้น้องใช้หลบ และนอนนั่นเอง
ก็ไม่มีอะไรที่วุ่นวาย หรือยุ่งยากเกินไป สำหรับการที่จะเลี้ยงแฮมสเตอร์สักหนึ่งตัว อย่าลืมที่จะใช้ใจ ในการเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้ เพราะเรานำเขามาเป็นสัตว์เลี้ยง ไว้อยู่ด้วยคลายเหงา ดังนั้น เราก็ต้องให้ความรัก ความเอาใจใส่ กระต่าย
และดูแลเขา เพราะสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะหนู กระต่าย สุนัข หรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ล้วนต้องการความรักจากเจ้าของ อย่าลืมเตรียมความพร้อมให้ดี ก่อนที่จะรับสัตว์มาเลี้ยงนะ เกมดีบอกต่อ